ข่าวเศรษฐกิจ![]() คอรัล ไลฟ์ ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการเชิง Sustainability และให้บริการ Energy Service Company ในแบบ Total Solution ชูแนวคิดสร้างอาคารอย่างชาญฉลาด เพื่ออนาคตที่ดีกว่า สร้างอาคารประหยัดพลังงาน สามารถประหยัดค่าพลังงานในอาคารได้มากกว่า 70% พร้อมยกระดับคุณภาพอากาศภายในอาคารสู่มาตรฐาน Wellness ที่ WHO กำหนดนายเจมส์ ดูอัน ประธานกรรมการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการเชิง Sustainability และให้บริการ Energy Service Company ในรูปแบบ Total Solution กล่าวว่า โซลูชันของคอรัล ไลฟ์เกิดจากประสบการณ์ตรงที่อยู่ในแวดวงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 21 ปี และการศึกษาทดลองในระดับห้องปฏิบัติการ เพื่อค้นหาว่าจะสร้างอาคารที่ประหยัดพลังงานในภูมิอากาศร้อนชื้นให้เต็มประสิทธิภาพได้อย่างไร บริษัทฯ ได้นำองค์ความรู้จากหลากหลายศาสตร์ ทั้งฟิสิกส์ ชีววิทยา วิศวกรรมอาคาร และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มารวมกันเป็นหนึ่งเดียวใน Coral Total Solution ซึ่งสามารถส่งมอบผลลัพธ์ที่วัดได้ ทั้งในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานและคุณภาพอากาศของอาคารที่อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง บริษัทฯ ได้ศึกษาแนวทางในการสร้างอาคารประหยัดพลังงานจนประสบผลสำเร็จ นายเจมส์ กล่าวว่า คอรัล ไลฟ์ ใช้แนวคิด “สร้างอาคารอย่างชาญฉลาด เพื่ออนาคตที่ดีกว่า” ในการช่วยลูกค้าสร้างหรือปรับปรุงอาคารใหม่ซึ่งบริษัทจะให้บริการในรูปแบบ Coral Total Solution ด้วยการสร้างอาคารประหยัดพลังงานที่สามารถลดค่าไฟได้มากกว่า 70% พร้อมคุณภาพอากาศระดับ Wellness ที่องค์การ WHO กำหนด โดยควบคุมได้ทั้ง 5 ด้านหลัก ได้แก่ ปลอด PM 2.5, VOCs ต่ำ, ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่ 40-60% ให้อยู่ในระดับที่สบาย และรักษาระดับ CO2 ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมซึ่งต่ำกว่า 1000 PPM ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสุขภาพ ที่พัฒนาให้เหมาะสมสำหรับสภาวะอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย สามารถช่วยลูกค้าประหยัดเงิน ตามแนวทาง Sustainability
นายเจมส์ เชื่อว่า ความยั่งยืนต้องเริ่มจากองค์กรของเราเองก่อนเป็นอันดับแรก และเมื่อมีผู้นำที่ลงมือทำจริงในแต่ละภาคส่วน การสร้างชุมชนของผู้ขับเคลื่อน ESG ที่มีพลังและยืนหยัดต่อเนื่องจึงจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
สำหรับการเติบโตทางธุรกิจ ESG Solution คาดว่าปี 68 รายได้จะโตกว่าปี 67 ประมาณ 300% (โดยในปี 67 โตประมาณ 100% จากฐานเดิมที่ไม่มีอะไรเลย) โดยมีโปรเจกต์ที่เตรียมส่งมอบในปีนี้หลัก ๆ ประมาณ 4 โครงการ ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี บริษัทเทคโนโลยีที่จังหวัดปราจีนบุรี สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ และบ้าน สำหรับตลาดที่มองว่ามีดีมานด์สูง คือโรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และสนามบิน
ส่วนมูลค่าตามราคาตลาด (Market capitalization) หากเทียบกับก่อนช่วงโควิด-19 มูลค่าของภาคก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท (โดย 50% เป็นของภาครัฐ และอีก 50% เป็นของภาคเอกชน) ในส่วนของบริษัทฯ Market cap จะอยู่ที่ประมาณ 20% โดยทั้งหมดเป็นตลาดบน เพราะตลาดล่างบริษัทฯ ยังไปไม่ถึง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกัน คาดว่าในปี 69 จะได้เห็นโมเดลที่บริษัทฯ จะร่วมลงทุนกับลูกค้า คือ รายได้ของบริษัทฯ จะมาจากส่วนต่างของค่าไฟของลูกค้าที่จะลดลง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับหลายแห่ง อาทิ โรงงาน หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มทีมงานจากตอนนี้ที่มี 60 คน ณ สิ้นปีน่าจะอยู่ที่ 100 คน และปี 69 อยู่ที่ 160 คน ในปี 68 บริษัทฯ พร้อมพันธมิตรเตรียมเปิดหลักสูตร ESG REAL ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็น “พื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยน” ที่ไม่ใช่แค่การเรียนรู้จากตำรา แต่เต็มไปด้วยการแบ่งปันประสบการณ์จริงจากผู้คนที่เคยลงมือทำและสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในพื้นที่ของตนเอง โดยหลักสูตรนี้มุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้วิสัยทัศน์ของผู้เข้าร่วมกลายเป็นการลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งมอบแผนภาพทางความคิดที่เหมาะสมในการส่งมอบ ESG ที่วัดผลได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 68) Tags: ESG, คอรัล ไลฟ์, อสังหาริมทรัพย์, เจมส์ ดูอัน |